ServiceMarketingOnline


WOM Marketing คืออะไร

WOM Marketing หรือ Word of Mouth Marketing (การตลาดแบบปากต่อปาก) คือกลยุทธ์การตลาดที่ใช้ “คำพูด” หรือ “ประสบการณ์” ของลูกค้า ในการเล่าต่อถึงแบรนด์ สินค้า หรือบริการให้คนอื่นรับรู้ โดยไม่ต้องพึ่งโฆษณาโดยตรง

แม้จะดูเรียบง่าย แต่ การตลาดบอกต่อ นี้ถือเป็นหนึ่งในรูปแบบการตลาดที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะผู้บริโภค “เชื่อคนรอบตัว” มากกว่า “เชื่อโฆษณา” งานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่ากว่า 90% ของผู้บริโภคให้ความเชื่อมั่นกับคำแนะนำจากเพื่อน ครอบครัว หรือรีวิวออนไลน์

ในยุคดิจิทัล WOM Marketing ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การพูดคุยกันแบบปากต่อปากอีกต่อไป แต่ขยายเป็น Digital WOM ผ่านโซเชียลมีเดีย รีวิว Google คอมเมนต์ Facebook หรือคลิปรีวิวบน TikTok

ทำไม “การตลาดแบบปากต่อปาก” ถึงทรงพลัง
- สร้างความน่าเชื่อถือ (Credibility) ได้ดีที่สุด
- ต้นทุนต่ำ เมื่อเทียบกับโฆษณาแบบดั้งเดิม
- ส่งผลระยะยาว เพราะคำพูดดีสามารถแพร่กระจายได้เรื่อย ๆ
- เพิ่ม Conversion Rate ลูกค้าที่ได้ยินคำแนะนำมักตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น

วิธีสร้าง Word of Mouth Marketing อย่างมีกลยุทธ์
1. สร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ดี (Customer Experience)
- ไม่ว่าจะเป็นบริการที่ใส่ใจ คุณภาพสินค้าที่เกินคาด หรือการแก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว ประสบการณ์เหล่านี้คือ “จุดเริ่มต้น” ของการบอกต่อ

2. กระตุ้นให้เกิด User Generated Content (UGC)
- เชิญชวนลูกค้าให้โพสต์รูป/คลิปขณะใช้สินค้า พร้อมแฮชแท็กเฉพาะของแบรนด์ เช่น #StayAtForestVilla

3. ใช้ Testimonials และรีวิวจริง
- แสดงคำรีวิวจากลูกค้าจริงบนเว็บไซต์หรือเพจ ยิ่งมีรูป/วิดีโอ ยิ่งน่าเชื่อถือ

4. สร้างโปรแกรม Referral Marketing
- ให้ลูกค้าเดิม “ชวนเพื่อน” มาใช้บริการ แล้วรับส่วนลดหรือของขวัญ เช่น “ชวนเพื่อนมาพัก รับคูปอง 500 บาททันที”

5. สร้าง Buzz Marketing
- ออกแบบแคมเปญที่ “พูดถึงได้” เช่น กิจกรรมแปลกใหม่ โปรโมชันสุดเซอร์ไพรส์ หรือสินค้าลิมิเต็ดอิดิชัน

6. ร่วมมือกับ Influencer Marketing
- เลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่สอดคล้องกับแบรนด์ เพื่อสร้าง Customer Advocacy อย่างเป็นธรรมชาติ

7. ใช้เครื่องมือ WOM Marketing
- ระบบเก็บรีวิวอัตโนมัติ (เช่น LINE OA ส่งลิงก์รีวิวหลังใช้บริการ)
- แทร็กการกล่าวถึงแบรนด์บนโซเชียลด้วย Google Alerts หรือ Social Listening Tools

การวัดผล Word of Mouth Marketing
แม้จะเป็นการตลาดแบบไม่เป็นทางการ แต่ก็วัดผลได้ เช่น
- จำนวนรีวิว/คอมเมนต์เชิงบวก
- ปริมาณการกล่าวถึงแบรนด์ (Brand Mentions)
- อัตราการเติบโตของผู้ติดตามจากคำแนะนำ (Referral Traffic)
- ยอดใช้โค้ดแนะนำ (Referral Code Usage)

ตัวอย่างแคมเปญ Word of Mouth ที่ประสบความสำเร็จ
- Dropbox: ใช้ระบบชวนเพื่อน ได้พื้นที่จัดเก็บฟรีเพิ่ม ทั้งผู้ชวนและผู้ถูกชวน
- Airbnb: ส่งเสริมให้เจ้าของที่พักและผู้เข้าพักเขียนรีวิวอย่างละเอียด → สร้างความน่าเชื่อถือทั้งระบบ
- แบรนด์ท้องถิ่นในไทย: ร้านกาแฟเล็กๆ ที่ให้ลูกค้าถ่ายรูปคู่เมนูแล้วแท็กเพจ → ได้ดื่มฟรี 1 แก้ว → กลายเป็นไวรัลในชุมชน

WOM Marketing สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก
คุณไม่จำเป็นต้องมีงบโฆษณาหลักล้าน ธุรกิจเล็กสามารถใช้ กลยุทธ์ WOM ได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่าน
- การบริการที่ “จำได้”
- การขอบคุณลูกค้าอย่างจริงใจ
- การตอบคอมเมนต์/แชททุกข้อความ
- การสร้างชุมชนลูกค้าเล็กๆ ที่รู้สึกเป็น “ส่วนหนึ่ง” ของแบรนด์

WOM Marketing ไม่ใช่แค่ “หวังให้ลูกค้าพูดถึง” แต่คือการ “ออกแบบประสบการณ์” ให้ลูกค้า “อยากพูดถึง” ด้วยตัวเอง

เมื่อคุณสร้างคุณค่าที่แท้จริง คำบอกต่อจะเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ และนั่นคือรูปแบบการตลาดที่ยั่งยืนที่สุดในโลก “ลูกค้าที่พึงพอใจ คือโฆษณามือหนึ่งของแบรนด์คุณ” เริ่มต้นวันนี้ ด้วยการถามตัวเองว่า “เราทำอะไรให้ลูกค้า ‘อยากบอกต่อ’ ได้บ้าง”